คณะแพทยศาตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี จัดงาน “Open House คณะแพทยศาสตร์ เปิดบ้านหลัง ใหม่สู่ครอบครัว BTU” เพื่อต้อนรับนักศึกษาใหม่ และเตรียมพร้อมอย่างมุ่งมั่นในการผลิตนักศึกษาแพทย์ที่มีคุณภาพสู่สังคม ซึ่งใช้รูปแบบการจัดกิจกรรมแบบออนไลน์ผ่านระบบ Zoom และ Facebook Live โดยมี รศ.ดร.บังอร เบ็ญจาธิกุล อธิการบดีมหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี กล่าวต้อนรับผู้บริหาร คณาจารย์ และแสดงความยินดีต่อคณะแพทยศาสตร์ผ่านคลิปวีดิโอในกิจกรรมดังกล่าว ณ ห้องสตูดิโอสถานีโทรทัศน์ BTU Channel เมื่อวันที่ 27 กันยายน 2564
ศาสตราจารย์เกียรติคุณ นพ.สารเนตร์ ไวคกุล คณบดีคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี ได้กล่าวถึงความสำเร็จของการเปิดคณะแพทยศาสตร์ว่า หลักที่เป็นหัวใจสำคัญของการเปิดคณะแพทยศาสตร์ในบริบทปัจจุบัน คือ การมีหลักสูตรการเรียนที่สอดคล้องตามนโยบายของภาครัฐ ซึ่งมีความต้องการบุคลากรทางการแพทย์ที่มีหัวใจของการเป็นแพทย์อย่างแท้จริง เพื่อรับใช้ชุมชน สังคม และประเทศชาติเป็นสำคัญ
คณบดีคณะแพทยศาสตร์ กล่าวอีกว่า วัตถุประสงค์ที่สำคัญของการก่อตั้งคณะแพทยศาสตร์ คือ การตอบสนองนโยบายของรัฐบาลในการผลิตแพทย์เพิ่มขึ้น เนื่องจากปัจจุบันจำนวนแพทย์ที่ทำงานในฐานะแพทย์ และปฏิบัติงานด้านเวชกรรมนั้นยังมีน้อย เห็นได้จากสถานการณ์ของโรคโควิดในปัจจุบัน บุคลากรทางการแพทย์ โดยเฉพาะแพทย์มีความขาดแคลน ประการต่อมาเพื่อตอบสนองนโยบายของแพทยสภาและกระทรวงสาธารณสุขในการผลิตแพทย์เวชศาสตร์ชุมชน แพทย์เวชศาสตร์ผู้สูงอายุ ซึ่งทั้งสองสาขานี้จะเป็นปัญหากับประเทศในอนาคต แพทย์เวชศาสตร์ครอบครัวจะสามารถดูแลผู้ป่วยที่มีการระบาดของโรคได้ ซึ่งทั้งสองสาขานี้เป็นจุดเด่นของโรงพยาบาลราชพิพัฒน์ ซึ่งเป็นที่มาของคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรีที่ได้ร่วมมือกับโรงพยาบาลราชพิพัฒน์ ซึ่งโรงพยาบาลราชพิพัฒน์ได้ฝึกอบรมแพทย์หลังปริญญาในสาขาเหล่านี้
คณบดีคณะแพทยศาสตร์ กล่าวว่า ในปัจจุบันยังมีความต้องการของนักศึกษาที่จะศึกษาต่อแพทยศาสตร์เดินทางไปศึกษาต่อในต่างประเทศไม่น้อยกว่า 500 คนต่อปี ซึ่งการเดินทางไปศึกษาต่อต่างประเทศเป็นความสูญเสียทางเศรษฐกิจ “การเปิดคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี เราเปิดรับนักศึกษา นักเรียนที่จบมาจากหลักสูตรต่าง ๆ ซึ่งจะทำให้นักศึกษาที่มีความรู้ ความสามารถเหล่านี้สามารถศึกษาต่อหลักสูตรแพทยศาสตรบัณฑิตได้ตามความประสงค์ ซึ่งมหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรีมีความเข้มแข็งทางด้านวิทยาศาสตร์ วิทยาการจัดการ และด้านกีฬา ซึ่งเชื่อมั่นว่าจะช่วยส่งเสริมความรู้ ความสามารถของแพทย์ให้สามารถออกไปปฏิบัติงานได้อย่างมีความสมบูรณ์มากขึ้น และมีโอกาสในการพัฒนาศักยภาพทางด้านสังคมศาสตร์ และอื่น ๆ รวมทั้งสามารถเข้ากับบุคลากรทางการแพทย์และชุมชนได้” ศาสตราจารย์เกียรติคุณ นพ.สารเนตร์ กล่าว
นอกจากนี้ ศาสตราจารย์ ดร.พญ.ธนวรรณ กุมมาลือ รองคณบดีฝ่ายวิชาการแพทยศาสตร์ศึกษา ได้กล่าวเพิ่มเติมถึงจุดเด่นของหลักสูตรแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรีว่า หลักสูตรแพทยศาสต์ของมหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี ได้รับการรับรองระดับมาตรฐานนานาชาติ โดยมุ่งผลสัมฤทธิ์เป็นฐาน และจัดการการเรียนการสอนให้นักศึกษามีส่วนร่วม เพื่อพัฒนาการเรียนรู้ และคิดอย่างมีวิจารณญาณ รายวิชาเลือกนอกจากวิชาด้านการแพทย์แล้วยังมีวิชาด้านการบริหารจัดการด้วย เพื่อเตรียมความพร้อมให้นักศึกษาสามารถบริหารจัดการโรงพยาบาล หรือคลินิกได้ด้วย โดยมีอัตลักษณ์ด้านเวชศาสตร์ครอบครัวและเวชศาสตร์ผู้สูงอายุ ซึ่งมีความสอดคล้องกับสังคมผู้สูงอายุในปัจจุบัน
ในการนี้ ศาสตราจารย์คลินิก พญ.วราภรณ์ ไวคกุล รองคณบดีฝ่ายกิจการนักศึกษา นพ.เกียรติ วิฑูรชาติ รองคณบดีคณะแพทยศาสตร์ ศาสตราจารย์เกียรติคุณ นพ.เจน มโนนุกุล รองคณบดีฝ่ายทรัพยากรบุคคล ดร.ณัฐวรรณ สาสิงห์ ผู้ช่วยอธิการบดี พร้อมด้วยผู้บริหาร คณบดีคณะทันตแพทยศาสตร์ คณะพยาบาลศาสตร์ คณะสาธารณสุขศาสตร์ คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการกีฬา คณบดีคณะนิเทศศาสตร์ และคณาจารย์ร่วมแสดงความยินดีถึงความสำเร็จก้าวแรกที่สำคัญของคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี ทั้งนี้ ผู้บริหาร คณาจารย์ คณะแพทยศาสตร์ได้นำชมความพร้อมของอาคารสถานที่ และสิ่งอำนวยความสะดวก รวมทั้งความพร้อมของคณะแพทยศาสตร์สำหรับรองรับนักศึกษาใหม่ด้วย