ความสำคัญของหลักสูตร
หลักสูตรแพทยศาสตรบัณฑิต มหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี มุ่งเน้นให้แพทย์ที่จบการศึกษาจากหลักสูตรจะต้องเป็นผู้มีปัญญา มีความรู้ มีทักษะและจิตสำนึกที่ดีต่อการให้บริการสุขภาพแบบองค์รวม ครอบคลุมทั้งการส่งเสริมสุขภาพ การป้องกันโรค การตรวจวินิจฉัย การรักษาและการฟื้นฟูสุขภาพของบุคคล ครอบครัว และเวชศาสตร์ชุมชน ยึดมั่นในคุณธรรมและจริยธรรมแห่งวิชาชีพ มีความสามารถในการพัฒนาตนเองสู่การศึกษาในระดับสูงที่หลากหลายได้ และสอดคล้องกับพัฒนาด้านเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ รวมทั้งสามารถปรับตนเองให้เข้ากับสถานการณ์ในอนาคตได้อย่างเหมาะสม
ปรัชญาของหลักสูตร
คุณธรรมนำความรู้ คู่ความสามารถ ฉลาดพัฒนาตน และชุมชน
ค่านิยม
EKG (Ethic, Knowledge, Generosity)
วัตถุประสงค์ของหลักสูตร
เพื่อสร้างบัณฑิตแพทย์ที่มีความรู้ความสามารถ ทักษะ และเจตคติ ไม่น้อยกว่าเกณฑ์มาตรฐานผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมของแพทยสภา พ.ศ. ๒๕๕๕ และกรอบมาตรฐานคุณวุฒิระดับอุดมศึกษา สาขาแพทยศาสตร์ ดังนี้
(๑) มีคุณธรรม จริยธรรมและเจตคติอันดีงามต่อการประกอบวิชาชีพ และสังคม
(๒) มีความรู้ความสามารถ และทักษะพื้นฐานทางด้านพื้นฐานวิชาชีพเวชกรรม โดยสามารถให้บริการสุขภาพแบบองค์รวม ครอบคลุมทั้งการส่งเสริมสุขภาพ การป้องกันโรค การตรวจวินิจฉัย การรักษา และการฟื้นฟูสุขภาพของบุคคล ครอบครัวและชุมชน อย่างมืออาชีพ
(๓) มีความสามารถสืบค้นทางห้องปฏิบัติการ หมายถึงความสามารถในการเลือกใช้การทดสอบทางห้องปฏิบัติการอย่างสมเหตุสมผล ซึ่งรวมถึงการระบุข้อบ่งชี้ การเตรียมผู้ป่วย การจัดเก็บสิ่งส่งตรวจและการแปลผลการตรวจเพื่อการวินิจฉัยและการติดตามผลการรักษา
(๔) มีความสามารถวิเคราะห์ข้อมูลและแก้ปัญหาด้านสุขภาพ ได้อย่างมีเหตุผลตามกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ ครอบคลุมแง่มุมต่าง ๆ แบบองค์รวม
(๕) มีเจตคติที่ดีในการศึกษาต่อเนื่องตลอดเวลา ติดตามความก้าวหน้าของวิทยาการใหม่ ๆ และสามารถใช้เทคโนโลยีได้อย่างเหมาะสมและถูกกาลเทศะ
(๖) มีทักษะในการสื่อสารระหว่างแพทย์ บุคคลากรทางแพทย์ ผู้ป่วย ญาติผู้ป่วย ผู้อยู่ในวิชาชีพอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับบุคคลทั่วไป กับคนทุกกลุ่มอายุ ทั้งด้านการฟัง พูด เขียนทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ และการทำงานเป็นทีม
(๗) มีความสามารถผสมผสานและประยุกต์ความรู้ความสามารถทางวิชาการแพทย์กับวิชาแขนงต่าง ๆ ในการปฏิบัติงานและการให้บริการด้านสุขภาพแก่ประชาชน มีมนุษยสัมพันธ์ดีและสามารถทำงานร่วมกับบุคลากรสาขาวิชาชีพอื่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ
(๘) มีทัศนคติเชิงบวก รู้เท่าทันต่อบริบททางสังคม กฎระเบียบ กฎหมาย และนโยบายสาธารณะต่างๆ ที่ควบคุมกำกับการประกอบวิชาชีพเวชกรรมทั้งในปัจจุบันและที่จะมีขึ้นในอนาคต
(๙) มีความสามารถในการวิเคราะห์ผลการวิจัยและดำเนินงานวิจัยพื้นฐานได้อย่างถูกต้องตามระเบียบ วิธีวิจัยที่มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
(๑๐) เป็นผู้ที่มีความสามารถในการเป็นผู้นำ และชี้นำสังคม